วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

ทัวร์จีนชมมหัศจรรย์ธรรมชาติ อุทยานมรดกโลกที่สำคัญที่หนึ่งของจีน

ทริปนี้มีกำหนดการเดินทางตั้งแต่วันที่ 12 – 17เมษายน 2556 นะค่ะ ทัวร์จีนชมมหัศจรรย์ธรรมชาติ อุทยานมรดกโลกที่สำคัญที่หนึ่งของจีน  ไปสูดบรรยากาศอันสดชื่นกับแอนเล็กได้เลยค่ะ
101วันเริ่มของการเดินทางวันที่  12 เมษายน 2556 กรุงเทพ – สุวรรณภูมิ
คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 23.30 นาที อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ W สายการบิน CHINA SOUTHERNจะมีเจ้าหน้าที่บริษัท SPiRiT OF THE WORLD และหัวหน้าทัวร์คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ท่าน แล้วทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ น้ำหนักกระเป๋าไม่เกินคนละ 20 กิโลกรัมนะค่ะ จากนั้นเชิญทุกท่านผ่านกระบวนการตรวจคนออกเมือง และช็อปปิ้งใน KING POWER รอเวลาเข้า GATE ได้เลยค่ะ

101วันที่สองของการเดินทางวันที่  13 เมษายน 2556 กรุงเทพ – ฉางซา – เมืองโบราณฟ่งหวง – บ้านเกิดเสิ่นฉงเหวิน – ล่องเรือแม่น้ำถั่วเจียง
เครื่องเราออกบิน เวลา ตี 3 ของวันที่ 13 เมษายน นะค่ะ ตรงเวลาเป๊ะเลยค่ะ ใช้เวลาบินจากกรุงเทพ – ฉางซา ประมาณ 3 ชั่วโมง ไปถีงฉางซา เวลา 7 โมงเช้า เวลาจีนนะค่ะ เนื่องจากว่าเวลาที่ประเทศจีน จะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมงนะค่ะ
DSCN1305
มีอาหารบริการบนเครื่องค่ะ
เมื่อถึงสนามบินเมืองฉางซาแล้วผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ออกจาก ประตูมา ก็เจอไกด์ท้องถิ่น และล่าม มายืนรอรับคณะเราหน้าประตูแล้วค่ะ ทัวร์จีนจากนั้นเราเดินทางไปทานข้าวกันเลยค่ะคณะเราทานข้าวที่โรงแรม ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 30 นาที อาหารเป็นแบบบุบเฟ่ห์นะค่ะ
DSCN1306
อาหารเช้าแบบบุปเฟ่ห์ที่โรงแรมในเมืองฉางซา
จากนั้นเดินทางสู่เมืองฟ่งหวง โดยจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงในการเดินทาง ระหว่างทางจะผ่านเมืองฉางเต๋อ จะถึงครึ่งทางพอดี คณะเราจะแวะทานอาหารกลางวันที่เมืองฉางเต๋อนะค่ะ วันนี้จะนั่งรถไกลหน่อย ไปเมืองฟ่งหวงที่อยู่ไกลที่สุด
P1013119
รูปปั้นหงส์กลางลานน้ำพุ สัญลักษณ์เมืองโบราณฟ่งหวง
ดินทางมาถึงเมืองโบราณฟ่งหวงแล้ว เมืองฟ่งหวง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทัวร์จีนเมืองหงส์ เป็นเขตปกครองตนเองของชนเผ่าน้อยถู่เจียง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของมณฑลหูหนาน เมืองนี้ตั้งอยู่กลางหุบเขา และมีแม่น้ำถัวเจียงเป็นแม่น้ำที่ใสสะอาดไหลผ่านในเมืองสองฝั่งแม่น้ำนี้จะมีบ้านโบราณที่ยกพื้นสูงตั้งอยู่สองฝั่งริมแม่น้ำ เป็นแนวยาว ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่มีลักษณะการก่อสร้างแบบจีนโบราณสร้างในสมัยราชวงศ์หมิงและชิงเป็นแบบบ้านโบราณต้นฉบับเลยทีเดียว
เมืองโบราณฟ่งหวง
เยี่ยมชมบ้านเกิดท่าน ”เสิ่นฉงเหวิน”
ในอดีต เสิ่นฉงเหวินเป็นนักประพันธ์ นักประวัติศาสตร์และนักการศึกษาค้นคว้าโบราณคดีนามอุโฆษของจีน เกิดและเติบโตที่เมืองฟ่งหวง ในมณฑลหูหนานของจีน และบ้านของเสิ่นฉงเหวินเป็นบ้านที่มีลานอยู่ตรงกลางและถูกล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ตัวบ้านก่อด้วยอิฐทนไฟที่มีสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่นในภาคตะวันตกของมณฑลหูหนาน ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นปู่ของเสิ่นฉงเหวิน อดีตผู้บัญชาการทหารประจำมณฑลกุ้ยโจวในสมัยราชวงศ์ชิง บ้านหลังดังกล่าวท่านเสิ่นฉงเหวินได้เก็บรักษาและเขียนบันทึกเรื่องราวประวัติของเมืองฟ่งหวงเพื่อให้ผู้คนที่มาเยี่ยมชมได้รู้จักที่มาที่ไปของเมืองและตัวท่านเองและมีผลงานที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้จัดแสดงให้ชมกันอีกดด้วยค่ะ จากนั้นก็นำคณะเดินชมภายในเมืองโบราณ มีทั้งสินค้านานาชนิดให้ได้เลือกซื้อมากมาย ทัวร์จีนตามร้านค้าพื้นเมืองในนั้น และไปล่องเรือ “แม่น้ำถั่วเจียง” ชมบรรยากาศเมืองโบราณริมน้ำ จุดเด่นของการเที่ยวชมภายในเมืองโบราณฟ่งหวง อยู่ที่การล่องเรือชมบรรยากาศของสองฝั่งแม่น้ำถั่วเจียง ชมบ้านเรือนสองฟากฝั่งแม่น้ำ สะพานโบราณ เจดีย์วั่นหมิง หอตั๋วชุ่ย ฯลฯระหว่างทางจะมีชาวบ้านเอาเรือออกมาลอยลำคอยร้องเพลงต้อนรับนักท่องเที่ยวและไกด์ก็จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวร้องเพลงตอบกลับไป ซึ่งไม่ว่าเราจะร้องเป็นเพลงไทยหรือจีนออกมา เค้าก็จะร้องเพลงตอบกลับมาอีกเช่นกันผลัดกันร้องผลัดกันฟังถึงแม้จะคนละภาษาแต่ก็สนุกใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 20 นาทีค่ะ ลงเรือที่ท่าเรือ และเรือก็จะพายไปส่งคณะเราอีกท่าเรือนึงนะค่ะ จะไม่ย้อนกลับมาที่เดิม พอขึ้นเรือมาแล้วก็เดินชมบรรยากาศยามเย็นของเมืองแห่งนี้ กลิ่นอายและลักษณะเด่นของบ้านเรือนที่แสดงความเป็นจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ทำให้การเดินชมเมืองเพลิดเพลินไปอีกแบบ เดินไปด้วย ช็อปปิ้งซื้อของฝากติดไม้ติดเมืองมาด้วย เดินได้จนลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียวค่ะ

เมืองโบราณฟ่งหวง
บรรยากาศเมืองโบราณฟ่งหวงค่ะ
P1013152
ถ่ายรูปคู่บรรยากาศเมืองโบราณฟ่งหวงค่ะ
P1013155
บรรยากาศเมืองโบราณฟ่งหวงค่ะ
ได้เวลาอันควรแล้วก็นำท่านเดินทางไปโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโบราณที่เราเดินชมบรรยากาศไม่ไกลมาก นั่งรถไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงโรงแรมที่พักและเชิญทุกท่านทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารโรงแรมเละค่ะทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็รับกุญแจเข้าห้องพักกันค่ะท่านใดที่จะไปเดินชมบรรยากาศยามค่ำที่เมืองโบราณอีกรอบมาเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรมตอน 2 ทุ่มนะค่ะ ไกด์จะเป็นคนพาไปค่ะโรงแรมที่พักของเราคืนนี้คือ FENGTING INTERNATIONAL HOTEL ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว คืนนี้พักผ่อนเอาแรง ขอให้ทุกท่านหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
PA191756
บรรยากาศยามค่ำประดับประดาไปด้วยแสงไฟที่เมืองโบราณฟ่งหวงค่ะ
page1
บรรยากาศห้องพักFENGTING INTERNATIONAL HOTEL
101วันที่สามของการเดินทางวันที่  14 เมษายน 2556 ฉางซา – จางเจียเจี้ย – เทียนเหมินซาน – นั่งกระเช้าไป – สะพานกระจก – ประตูสวรรค์ – โชว์จิ้งจอกขาว
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะเชิญทุกท่านทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมนะค่ะ จากนั้นก็ทำการ CHECK OUT คณะเราจะเดินทางสู่เมืองจางเจียเจี้ยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ตรวจสอบสิ่งของมีค่าและสัมภาระให้ครบถ้วนนะค่ะแล้วโบกมืออำลาให้เมืองโบราณแห่งนี้กันเลยค่ะ เมื่อเดินทางถึงจางเจียเจี้ยนำคณะทานอาหารกลางวันเติมพลังกันก่อนนะค่ะ
page2
อาหารกลางวันมื้อนี้มีสุกี้เห็ดด้วยค่ะ
นำคณะเดินทางไปขึ้นกระเช้าไปฟ้า ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านอาหารของเรา ใช้เวลานั่งรถไม่ถึง 5 นาที แต่ช่วงสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันอย่างหนาแน่น จึงใช่เวลาต่อคิวขึ้นกระเช้าค่อนข้างจะนานหน่อยค่ะ
page3
ต่อคิวขึ้นกระเช้าไฟฟ้า สู่เขาเทียนเหมินซาน
ภูเขาเทียนเหมินซาน จะต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้า จากสถานีกระเช้าไฟฟ้าในตัวเมืองจางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นกระเช้าที่มีความยาวที่สุดในโลก ความยาว 7,455 เมตร ทัวร์จีนใช้เวลาประมาณ 40 นาที  ซึ่งกระเช้าจะนั่งได้ 8 ท่าน/กระเช้า สถานนีกระเช้าไฟฟ้าจะมี 3 สถานี -จุดล่างสุด เป็นสถานีที่ 1,  -จุดตรงกลาง เป็นสถานีที่ 2,  -จุดสูงสุด เป็นสถานีที่ 3  แต่ละสถานนีสามารถขึ้นลงได้ตลอด เราขึ้นกระเช้าที่สถานีที่ 1 แล้วนั่งไปถึงสถานีที่ 3 เพื่อจะไปชมวิวจุดที่สวยที่สุด และไปประลองความกล้าที่ทางเดินกระจกกันค่ะคำเตือนหากท่านใดเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรเดินนะค่ะ เพราะพื้นเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นวิวข้างล่างที่เป็นภูภาหินที่สูงชันและต้นไม้สูงใหญ่ ที่อยู่ด้านล่าง
P1013202
เมื่อชมวิวเสร็จแล้วมาขึ้นกระเช้าจุดเดิมแล้วกระเช้าจะวนลงไปที่ สถานีที่ 2 เราจะลงกระเช้าที่สถานีนี้เพื่อต่อรถในอุทยานไปสู่ ถ้ำประตูสวรรค์ ซึ่งต้องผ่านทางโค้ง อีก 99 โค้ง ตอนนั่งกระเช้าถ้ามองลงมายังด้านล่างสามารถมองเห็นเส้นทางที่เราต้องนั่งรถผ่านค่ะ
เขาเทียนเหมินซานลงจากกระเช้าที่สถานีที่ 2 แล้วต่อรถอุทยานผ่านทาง 99 โค้ง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็จะถึงทางขึ้นประตูสวรรค์ จะมีบันไดทางขึ้นไปอีก 999 ขั้น ก่อนถึงประตูสวรรค์ ต้องเผื่อกำลังตอนขาลงด้วยนะค่ะ อีก 999 ขั้นเช่นกันค่ะ
P1013274
ประตูสวรรค์ หรือ ถ้ำประตูสวรรค์
ภูเขาเทียนเหมินซาน ตั้งอยู่ที่มณฑลหูหนาน สมัยก่อนเรียกว่า “ภูเขาหวินเมิ้งซาน ฆรือซงเหลียวซาน” ประวัติความเป็นมาของถ้ำเทียนเหมินซาน หรือเรียกว่า ถ้ำประตูสวรรค์ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของภูเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศจีน ที่เรียกว่าเทียนเหมินซาน เนื่องจากว่าภูเขาเกิดระเบิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ จนกลายเป็นช่องระหว่างภูเขา ประตูสวรรค์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองจางเจียเจี้ย เป็นภูเขาลือชื่อแห่งแรกที่ได้บันทึกไว้ในจดหมายเหตุประวัติศาสตร์ของเมืองจางเจียเจี้ย เนื่องจากหน้าผาสูง ชันมีช่องโพรงลักษณะคล้ายประตูซึ่ง ก็คือช่องหินเทียนเหมิน (ประตูฟ้า) ที่มีทัศนียภาพแปลกมหัศจรรย์และพบเห็นได้น้อยมากในโลกปัจจุบัน ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าเขาเทียนเหมินซาน (เขาประตูฟ้า) เขาเทียนเหมินซานอยู่ห่างจากเขตเมืองจางเจียเจี้ยเพียง 6 กิโลเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,518.6 เมตร ทั้งสี่ ทิศรอบๆ ภูเขาเป็นหน้าผาสูงชะโงกเงื้อม ตั้งตระหง่านเทียมฟ้า มีภูมิลักษณ์แบบคาสต์ที่สมบูรณ์เต็มที่ นอกจากภูมิประเทศที่มีความสูงอย่างน่าอัศจรรย์แล้วที่นี่ยังมีความงดงามน่าชมอีกด้วย นับแต่โบราณมาก็เป็นสถานที่ที่บุคคลผู้มีชื่อเสียงและขุนนางต่างพากันชื่นชม มีบ่อ เกิดทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ทางวัฒนธรรมของเมืองจางเจียเจี้ย ได้รับการนับถือว่าเป็น “จิตวิญญาณแห่งจางเจียเจี้ย” และได้รับ ยกย่องว่าเป็น “สุดยอดภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของภาคตะวันตกหูหนาน”
ช่องหินเทียนเหมินตั้งอยู่บริเวณตอนบนค่อนกลางของตัวเขาเทียนเหมินซาน เป็นช่องหินทะลุภูเขาตามธรรมชาติที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร ซึ่งสูง ที่สุดในโลก ช่องหินมีความสูง 131.5 เมตร กว้าง 57 เมตร ลึก 60 เมตร ช่องหินเป็นแนวทิศเหนือและใต้อยู่เหนือหน้าผาสูงทั้งหลาย สุดยอดทัศนียภาพอัศจรรย์ของโลกแห่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายมหาศาล ให้มาเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ค.ศ.1999 ปรมาจารย์นักบินเทคนิคพิเศษระดับโลกได้ขับเครื่องบินลอดผ่านช่องหินเทียนเหมิน สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลก มีผู้ชมชมการถ่ายทอดสดถึง กว่า 800 ล้านคน
page4
โชว์นางจิ้งจอกขาว
จากนั้นนำคณะไปชมโชว์การแสดง โชว์จิ้งจอกขาว อันเลืองชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักของนางจิ้งจอกขาวละหนุ่มเก็บฟืน ซึ่งถูกกีดกั้นจากเผาหมาป่าและชาวบ้าน เป็นโชว์ที่ยิ่งใหญ่และตระกาลตามาก ด้วยนักแสดงคุณภาพกว่า 600 คน แสดงภายใต้สะพานคู่เชื่อมเขาสองลูก สะพานคู่รักใต้หล้า อลังการณ์กว่าโชว์ใดใด เสร็จแล้วไปทานอาหารค่ำก่อนเข้าโรงแรมที่พักนะค่ะ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวช่วงสงกรานต์เป็นจำนวนมาก จึงทำให้คณะเราทานอาหารค่ำช้าหน่อยนะค่ะ
page5
 รับประทานอาหารค่ำก่อนเข้าโรงแรมที่พักค่ะ
อิ่มท้องเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปโรงแรมที่พัก คณะเราจะพักในบริเวณอุทยานจางเจียเจี้ย จะสะดวกต่อการเดินทางมากค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ใกล้บริเวณอุทยาน ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที และคณะเราจะพักที่โรงแรมนี้ทั้ง 3 คืนนะค่ะ ช่วงเช้าสะดวกไม่ต้องเก็บกระเป๋าสัมภาระค่ะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวค่ะ
page6
101วันที่สี่ของการเดินทางวันที่  15 เมษายน 2556จางเจียเจี้ย – ถ้ำหลงหวังต้ง – ร้านยาจีน – เทียนจื่นซาน – สวนเฮ่อหลง – สะพานใต้ฟ้า No.1 – ลิฟท์แก้วไป่หลง
รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรมนะค่ะ ซึ่งจะมี ชั้น 1 และชั้น 2 สามารถเลือกได้ตามสะดวกเลยค่ะ โปรแกรมช่วงเช้านี้ นำคณะไปชมถ้ำหลงหวังต้ง หรือ ถ้ำพญามังกรค่ะ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่พักของเราไม่ไกลนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ
page7
บริเวณด้านหน้าลานจอดรถก่อนเดินไปทางเข้าถ้ำ จะมีร้านขายสินค้าให้เลือกชมนะค่ะ
ถ้ำหลงหวังต้ง หรือ ถ้ำพญามังกร เป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดของอุทยานจางเจียเจี้ย ภายในถ้ำก็มีการติดไฟแสงสี และหินงอกหินย้อย ที่มีรูปร่างแปลกๆ งดงามตระการตา รวมทั้งพญามังกรที่อยู่ในถ้ำด้วย เป็นถ้ำที่มีความงดงามและใหญ่ที่สุดในจางเจียเจี้ย มีความสูง 50 เมตร กว้าง 80 เมตร และยาวถึง 30 กิโลเมตร แต่เปิดให้ชมแค่ประมาณ 4.5 กิโลเมตร
ภายในมีหินงอกหินย้อยที่มีความวิจิตรงดงาม มีเสาหลักมังกรขนาด 10 คนโอบ ภายในยังมีสระน้ำพญามังกร มีพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร ส่วนความลึกของสระนี้ยังเป้นปริศนาอยู่ ยังไม่มีผู้ใดสามารถวัดได้ ในช่วงเช้าตรู่และกลางคืนจะมีหมอกปกคลุมบางๆ เปรียบเสมือนท่านอยู่บนสวงสวรรค์บนพื้นพิภพ ซึ่งผู้คนที่ได้มาต่างประทับใจจนไม่สามารถหาคำบรรยายถึงความสวยงามและดูน่าเล้นลับนี้ได้จึงได้ขนามนามสระแห่งนี้ว่า  สระน้ำมหัศจรรย์
P1013340
ถ้ำหลงหวังต้ง
จากนั้นก็กลับไปอุทยานจางเจียเจี้ย เพื่อไปเขาเทียนจื่นซานกันนะค่ะ แต่ก่อนขึ้นเขา เรามาทานอาหารกลางวันให้อิ่มท้องกันก่อนดีกว่า จะได้มีแรงเดินชมธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจค่ะ และแวะชมร้านยาจีน ร้านรัฐบาลกันด้วยค่ะ
page8
ทานอาหารกลางวันที่โรงแรมเติมได้เต็มที่เลยค่ะ
เมื่อปลายปี 2552 หนังเรื่องอวตาลได้เข้าฉายในโรงหนังบ้านเรา เป็นหนังที่มีผู้คนซื้อตั๋วเข้าไปชมหลายล้านคน จึงทำให้มีการค้นหาสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำ จากนั้นอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยก็เป็นที่โด่งดังในบ้านเรา ทำให้มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติ ที่น่าอัศจรรย์นี้จำนวนมาก และในขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ได้เดินทางมาสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จากการที่ได้ชมหนังเรื่องอวตาล เป็นจำนวนมากเช่นกัน การเดินทางจากเมืองไทยไปจางเจียเจี้ยนั้นยังไม่มีเที่ยวบินที่บินตรงจากกรุงเทพ ไปลงที่จางจียเจี้ยเลย ส่วนใหญ่จะไปลงกวางเจา แล้วต่อรถไฟความเร็วสูงมาที่ฉางซา แล้วจึงนั่งรถต่อมายังจางเจียเจี้ย นอกจากว่าเทศกาลที่มีวันหยุดหลายวันจะมีเครื่องบินเหมาลำ มาลงที่ฉางซา อย่างเช่นเดียวกับคณะเราที่เดินทางมาค่ะ
อุทยานจางเจียเจี้ย อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี ค.ศ. 1982 และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกธรรมชาติในปี ค.ศ. 1992 ที่มีเนื้อที่กว่า 369 ตารางกิโลเมตร ภูเขาเทียนจื่อซาน หรือ ภูเขาเจ้าฟ้า สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง บนยอดเขาสูงประมาณ 1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเล เขาเทียนจื่อซานเต็มไปด้วยชะง่อนผาสูงชัน มีลำห้วยลึก และมีป่าหินยักษ์รูปร่างต่างๆ เช่น เขาพู่กัน เขาจักรพรรดิ เขาสวนสวรรค์ เขานางฟ้าโปรยดอกไม้ ฯลฯ ก่อนขึ้นเข้าด้านหน้าอุทยาน เราต้องซื้อตั๋วเข้าชมก่อนนะค่ะ ไกด์จะแจกให้คนละใบเป็นบัตรแข็งลักษณะเหมือนคีการ์ด และให้ทุกท่านเก็บไว้ห้ามหายนะค่ะ เพราะตั๋วนี้จะได้ใช้แสดงหลายครั้ง และใช้ในวันพรุ่งนี้ด้วยค่ะ
P1013383
เก็บภาพสักหน่อยก่อนขึ้นเขาเทียนจื่อซานค่ะ
เมื่อได้รับบัตรเข้าชมอุทยานเรียบร้อยทุกท่านแล้วก็เชิญเข้าอุทยานกันได้เลยค่ะ พอเข้าไปแล้วเราต้องต่อรถของอุทยานขึ้นเขาไปนะค่ะ เพื่อไปสถานีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปสู่ข้างบนเขาค่ะ
page9
สถานนี้กระเช้าไฟฟ้าเขาเทียนจื่อซาน
ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 20 นาที แล้วไปต่อรถของอุทยานเช่นเดิม ไปยังสวนนายพลเฮ่อหลง (Helong Park) สวนแห่งได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1986 เพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลเฮ่อหลงแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายในบริเวณสวนแห่งนี้จะมีจุดชมวิวซึ่งสามารถชมยอดเขาและหินแปลกรูปร่างต่างๆ ตามจินตนาการจำนวนมาก เช่น เขาพู่กัน เขาจักรพรรดิ เขาสวนสวรรค์ เขานางฟ้าโปรยดอกไม้ เป็นต้น
006
สวนจอมพลเฮ่อหลง
จอมพลเฮ่อหลง ท่านได้เกิดที่เมืองจางเจียเจี้ยแห่งนี้  เข้ารับราชการทหารตั้งแต่อายุ 19 ปี  จนเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 53 ปี โดยไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเลยสักครั้ง จึงถือเป็นบุคคลสำคัญมากคนหนึ่งของเมืองจางเจียเจี้ย  ที่สวนแห่งนี้จะมีรูปปั้นของท่านจอมพลเฮ่อหลง ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งเป็นรูปปั้นทองแดง ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เสื้อผ้าของท่านได้ถูกปั้นให้เหมือนภูเขาหินที่จางเจียเจี้ย และรูปปั้นท่านยืนหันหน้าไปทางทิศที่บ้านท่านตั้งอยู่ ซึ่งด้านหลังรูปปั้นจะเป็นภูผาที่สามารถไปชมวิวอันงดงามตระกาลตาได้
จากนั้นก็มาต่อรถของทางอุทยานไปจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งกันนะค่ะ ซึ่งจุดนี้จะใช้เวลานั่งรถขึ้นเขาประมาณ 30 นาที ท่านใดเมารถ ทานยาแก้เมารถได้เลยค่ะ
สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว (Tianxia di yiqiao) บางคนแปลว่า  สะพานหนึ่งในใต้หล้า  บ้างก็แปลว่า  สะพานใต้ฟ้าอันดับ 1 มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง บนสะพานจะมีลูกกุญแจอยู่เต็มไปหมด เป็นความเชื่อของคนหนุ่มคนสาวเอากุญแจไปคล้องไว้ที่สูงๆจะได้ไม่มีใครสามารถ พรากคู่รักให้จากกันได้ บางคนก็ทิ้งสู่หุบเหวเบื้องล่าง ก็ให้ความหมายเดียวกันว่าเราจะไม่พรากจากกันตราบชั่วนิรันดร์ โฉมหน้าสะพานเป็นสะพานหินเชื่อมระหว่างเขา 2 ลูก ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเป็นจุดชมวิวที่สวยมากอีกที่หนึ่งทีเดียว
page10
ระหว่างทางเดินไปสะพานใต้ฟ้า No.1 แวะเก็บภาพกันหน่อยค่ะ
P1013451
สะพานใต้ฟ้าอันดับ 1
หลังจากเดินชมวิวธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอดแล้ว เราก็มาขึ้นรถของอุทยาน ไปยังลิฟท์แก้วไป่หลง เพื่อลงจากเขา เป็นลิฟท์ที่เจาะผ่านภูเขาสูง ขณะลงลิฟท์ท่านจะได้ชมวิวจากภูผาสูงเลื่อนลงมาเรื่อยๆ แต่ใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ถึงแล้วค่ะ
page11
บริเวณลิฟท์แก้วไป่หลง
ลงมาจากเขาแล้ว ก็มาต่อรถของอุทยานอีกต่อนึงค่ะ เพื่อไปยังประตูทางออก แล้วไปทานอาหารค่ำที่โรงแรมที่พักของเรา วันนี้โปรแกรมของเราสิ้นสุดเพียงเท่านี้ค่ะ ทานอาหารอิ่มท้องแล้ว เชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ออมแรงไว้วันพรุ่งนี้ค่ะ
101 วันที่ห้าของการเดินทางวันที่  16 เมษายน 2556 จางเจียเจี้ย – ทะเลสาบเป่าเฟิงหู – ร้านชาจีน – ภาพเขียนสิบลี้ – ร้านผ้าไหม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรมนะค่ะ แล้วเดินทางไปทะเลสาบเป่าเฟิงหู ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ก็ไปถึงทางเข้าทะสาบ แต่ยังไม่ถึงนะค่ะ เพราะก่อนถึงทะเลสาบ เราต้องเดินเท้าข้ามเขาไปยังทะเลสาบกันค่ะ
page12
ด้านหน้าทางเข้าทะเลสาบเป่าเฟิงหู
ทะเลสาบเป่าเฟิงหู (Baofeng Lake) เป็นทะเลสาบบนช่องเข้าสูง โดยที่ทะเลสาบจะถูกรายล้อมด้วยยอดเขา และน้ำก็ใสมาก การเที่ยวชมอาศัยการล่องเรือ โดยระหว่างทางก็จะพบแพและมีคนใส่ชุดพื้นเมืองอยู่  นอกจากนี้ยังมีหินที่รูปร่างเหมือนหน้าผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติโดยไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด หลังจากล่องเรือเสร็จก็ต้องเดินลงจากเขา พอถึงด้านล่างก็จะเห็นน้ำตกจากทะเลสาบเป่าเฟิงหูไหลลงมากเป็นภาพที่สวยมาก ให้ได้ถ่ายรูปเก็บกันไว้เหมือนเดิม ทะเลสาบเป่าเฟิงหู ล่องเรือในทะเลสาบบนช่องเขาสูงที่หายากเนื้อที่ผิวน้ำรวม 30 เฮกตาร์ น้ำลึกถึง 72  เมตรและมีความยาวถึง 2.5 กิโลเมตร รายล้อมด้วยยอดเขา น้ำใสเหมือนกระจกเมื่อมองจากที่ไกล
P1013507
ล่องเรือชมวิวที่ทะเลสาบเป่าเฟิงหู
ขณะที่คณะเราล่องเรือ ก็จะล่องผ่านและสวนกันกับเรือของนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นด้วย และยังมีเรือของชาวท้องถิ่นที่จอดเรือไว้ข้างเขา เวลามีเรือนั่งท่องเที่ยวล่องเรือผ่านก็จะออกมาร้องเพลงท้องถิ่นต้อนรับ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และเราสามารถร้องตอบเหมือนเป็นการทักทายว่า “ฮู้ฮุย”  หรือท่านใดจะร้องเป็นบทเพลงตอบก็ได้ค่ะ
ก่อนกลับเราแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อย เก็พภาพบรรยากาศสวยๆได้เลยค่ะ
page13
ก่อนกลับแวะชม “ปลาสลาแมนเดอร์” ลักษณะคล้ายกับจิ้งจก แต่ขนาดตัวใหญ่มาก แล้วอาศัยอยู่ในน้ำ บางคนก็เรียกปลาชนิดนี้ว่า “จิ้งจกน้ำ”
page14

จากนั้นคณะเราไปแวะชมร้านชาจีน แล้วค่อยไปทานอาหารกลางวันกันค่ะ เสร็จแล้วเดินทางไปอุถทยานจางเจียเจี้ยค่ะ ให้ทุกท่านเตรียมบัตรเข้าชมอุทยาน ที่ไกด์แจกให้เมื่อวานด้วยนะค่ะ วันนี้เราต้องใช้ตอนเข้าอุทยานอีกรอบนึงค่ะ เพื่อไปชม “ภาพเขียนสิบลี้” โดยการนั่งรถรางชมวิวค่ะ

P1013625
นั่งรถรางชมวิวภาพเขียนสิบลี้
ระเบียงภาพเขียนสิบลี้ (Shili Gallery) คือช่องเขาแคบๆ ด้านล่างของเทียนจื่อซาน ที่ถูกบีบด้วยภูเขาและแท่งหินขนาดใหญ่ประมาณ 200 แท่ง เรียงรายเป็นแนวทิวเขาที่ประกอบด้วยยอดเขารูปร่างแปลกตาเรียงรายกัน โดยมีลำธารเล็กๆ ไหลผ่านตามแนวทิวเขาก่อให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพเขียน  จะมีบริการรถลางเล็กที่นั่งชมทิวทัศน์  โดยรถไฟฟ้าขนาดเล็ก จะไม่ทำให้เกิดมลพิษกับธรรมชาติ เวลานั่งอยู่บนรถไฟก็จะมีการบรรยายควบคู่ไ­ปว่าภูเขาหรือหินแต่ละลูกสื่อความ หมายถึงอะไร หรือท่านไหนชอบที่จะเดินออกกำลังกายก้อสามารถเดินได้
page15
ชมวิวภาพเขียนสิบลี้ สวยราวกับเป็นภาพวาด
จากนั้นคณะเราไปเยี่ยมชมร้านผาไหมของรัฐบาลจีนกันค่ะ แล้วค่อยไปรับประทานอาหารเย็นก่อนแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ อิ่มท้องกันแล้ว เชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือท่านใดอยากไปเดินชมเมืองยามเย็นบริเวณใกล้ๆโรงแรมก็ได้ค่ะ ด้านหน้าโรงแรมของเราก็จะมีร้านซุปเปอร์มาร์เก๊ตให้ซื้อของทานเล่นได้นะค่ะ
101วันที่หกของการเดินทางวันที่  17 เมษายน 2556 จางเจียเจี้ย – ร้านหยก – ฉางซาง – ถนนคนเดินหวางซิง – สนามบินฉางซา – กรุงเทพฯ
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม และเช้าวันนี้คณะเราจะต้อง CHECK OUT และเดินทางกลับกันแล้วค่ะ ให้ทุกท่านเช็คสิ่งของมีค่า และสัมภาระ ที่สำคัญที่สุดคือ PASSPORT เพราะต้องใช้เช็คอิน กลับค่ะ เราไปแวะชมร้านหยก ของรัฐบาลจีนก่อนเดินทางสู่ฉางซา ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง แวะรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง
เดินทางไปถึงเมืองฉางซาแล้วนำคณะไปที่ ถนนคนเดินหวางซิง ซึ่งจะมีสิ่งของเครื่องใช้  เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือขายอยู่มากมาย ให้ท่านได้เลือกซื้ออย่างจุใจ
008
ถนนคนเดินหวางซิง
 หลังจากนั้นเดินทางไปทานอาหารค่ำ ซึ่งเป็นมื้อสุดท้ายที่จะทานในจีนแล้ว ก่อนเดินทางไปที่สนามบินค่ะ
พอมาถึงที่สนามบิน และทำการ CHECK IN และโหลดกระเป๋าสัมภาระ โดยาไกด์และหัวหน้าทัวร์จะคอยอำนวยความสะดดวอให้กับทุกท่าน ผ่านพิธีการตรวจคนออกเมือง เข้าไปด้านในจะมี DUTY  FREE ให้ท่านได้เลือกซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปด้วยค่ะ
เครื่องบินของเรา 23.45 นาที ไปถึงที่กรุงเทพเวลา 02.00 นาที  DELAY ประมาณ 30 นาทีนะค่ะ เนื่องจากทีนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเวลาใกล้เคียงกับคณะเราเป็นจำนวนมาก ทำให้คิว ที่จะตรวจคนออกเมืองยาวมากค่ะ
กลับมาถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ทัวร์จีนพร้อมความประทับใจ ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ให้โอกาสบริษัทของเรา ได้ให้บริการแก่ทุกท่าน หวังว่าโอกาสหน้าจะใช้บริการของเราอีกนะค่ะ
:: เรียบเรียงและเขียนโดย น้องแอนเล็ก ::

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น