สวัสดี ค่ะผู้อ่านทุกท่าน กลับมาเจอกันอีกแล้วคราวนี้เราจะพาทุกท่านเดินทางสู่เมืองหนาวกันบ้างครั้ง นี้เราจะพาทุกท่านเหิรฟ้าไปยังดินแดนแห่งอวตาร เมืองจางเจียเจี้ยค่ะ ตั้งอยุ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของมณฑลหูหนาน(Hunan) ตอนกลางค่อนมาทางใต้ของจีน อันที่จริงเขตนี้เรียกว่า เขตท่องเที่ยว อู่หลิงหยวน (Wulingyuan) ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีชื่อเดียวกันว่า ภูเขาอู่หลิง (Wuling Shan) บนชายแดนตะวันตกของมณฑลหูหนานและตะวันออกมณฑลกุ้ยโจว (Guizhou) การเดินทางมาเที่ยวจางเจียเจี้ย ที่นิยมอีกทางหนึ่งคือบินตรงมาที่เมืองฉางซาซึ่งถือเป็นประตูสู่จางเจีย เจี้ยอุทยานจางเจียเจี้ย ได้รับการแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี ค.ศ. 1989 และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกธรรมชาติในปี ค.ศ. 1992 ที่มีเนื้อที่กว่า 369 ตารางกิโลเมตร สามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าสู่ “เขาสิงโตเหลือง (หวงซือจ้าย)” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดและมีเนื้อที่กว่า 83,000 ไร่และสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร ที่เขาสิงโตเหลืองจะมีจุดชมวิวที่เรียงรายลดหลั่น ไปตามแนวหน้าผา นับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของจีน ที่จะทำให้คุณได้สัมผัส กับภาพของยอดเขาวงกตเทียมเมฆ “จางเจียเจี้ย” ที่มียอดเขาสูงนับไม่ถ้วนโผล่ขึ้นมาซึ่งเขาบางลูก มีลักษณะคล้ายบอนไซ และจะได้สัมผัสกับ ความงดงามของสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อวตาร (Avatar) ฉากส่วนใหญ่ในเรื่องถ่ายจากอุทยานจางเจียเจี้ย ยอดเขาหวงซือจ้าย เป็นจุดท่องเที่ยว ยอดเขาที่สุดนับเป็นความสวยงามที่สุดแสนจะพรรณนาราวกับอยู่ในแดนสวรรค์
ในการเดินทางววันแรกของเรา ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอน 03.25 น. ถึงสนามบินเมืองฉางซาประมาณ 07.00 น.ค่ะ หนาวมาก รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยเราก็ขึ้นรถเตรียมเดินทางไปยังเมืองโบราณเฟิ่งหวง มีการแวะพักทานอาหารเช้าและอาหารเที่ยงระหว่างทางด้วยนะคะ
เมืองโบราณเฟิ่งหวง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเมืองหงส์ เขตปกครองตนเองของชนเผ่าน้อยถู่เจียง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของมณฑลหูหนาน เมืองโบราณตั้งอยู่กลางหุบเขาและมีแม่น้ำถั่วเจียง แม่น้ำที่ใสสะอาดไหลผ่าน สองฝั่งแม่น้ำมีบ้านแบบโบราณที่ยกพื้นสูงเรียงรายกันบนริมแม่น้ำ ถ้ามองจากริมแม่น้ำจะเห็นบ้านเรือนยกสูงสร้างติดริมแม่น้ำเป็นแนวยาว กลางเมืองฟ่งหวงจะมีสะพานเก่า ที่คาดว่าสร้างในสมัยราชวงศ์ชิง เชื่อมโยงชีวิตสองฟากแม่น้ำเป็นหนึ่งเดียว สะพานนี้มีสองชั้น ชั้นแรกเป็นทางเดินข้ามและมีร้านขายของเล็กๆ ริมทางเดิน ส่วนชั้นสองเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดจุดหนึ่งในเมือง นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมบรรยากาศของสองฝั่งแม่น้ำถั่วเจียง ชมบ้านเรือนสองฟากฝั่งแม่น้ำ สะพานโบราณ เจดีย์วั่นหมิง หอตั๋วชุ่ย ฯลฯ ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่มีลักษณะการก่อสร้างแบบจีนโบราณสร้างในสมัยราช วงศ์หมิงและชิง ระหว่างทางจะมีชาวบ้านซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของที่นี่เรียกว่าชนเผ่าถู่ เจียง
หลังจากดื่มด่ำกับบรยากาศกันแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนแล้วค่ะ พักเอาแรงกันก่อนที่จะต้องไปลุยต่อพรุ่งนี้ค่ะ
วันที่สองของการเดินทาง วันนี้เราจะนั่งรถจากเมืองโบราณเฟิ่งหวงไปยังเมืองจางเจียเจี้ยกันแล้วค่ะ ระหว่างทางแวะทานมื้อเที่ยงที่เมืองเก่าจางเจียเจี้ยเป็นเมนุกี้เห็ด อร๊อย อร่อยค่ะ แอบติดใจเล็กๆ อิ่มท้องแล้วก้ไปต่อกันเลยค่ะ มุ่งหน้าสู่เทียนเหมินซานค่ะเป็น 1 ใน 4 ของภูเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศจีน มีคำกล่าวว่า หากใครมาจางเจียเจี้ยแล้วไม่ได้มาขึ้นเขาเทียนเหมินซานแห่งนี้ เหมือนมาไม่ถึงจางเจียเจี้ย... การที่จะขึ้นไปบนนั้นเราต้องนั่งกระเช้าจากตัวเมืองจางเจียเจี้ยมีความยาว ที่สุดในโลก คือ 7,455 เมตรใช้เวลาประมาณ 40 นาที เขาเทียนเหมินซานอยู่ห่างจากเขตเมืองจางเจียเจี้ยเพียง 6 กิโลเมตร อยู่สูง จากระดับน้ำทะเล 1,518.6 เมตร ทั้งสี่ ทิศรอบๆ ภูเขาเป็นหน้าผาสูงชะโงกเงื้อม ตั้งตระหง่านเทียมฟ้า มีภูมิลักษณ์ที่สมบูรณ์เต็มที่
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสวยงามและความหนาวเหน็บกันแล้ว เราก็นั่งกระเช้ากลับลงไปข้างล่างเพื่อเข้าไปพักที่โรงแรมและหาไออุ่นกัน ก่อนค่ะ ไม่ไหวแล้วววว
วันที่สามของการเดินทาง วันนี้ตื่นกันแต่เช้าไปลุยถ้ำกันค่ะถ้ำพญามังกร หรือ ถ้ำหลงหวังต้ง เป็นถ้ำที่มีความงดงามและใหญ่ที่สุดในจางเจียเจี้ย มีความสูง 50 เมตร กว้าง 80 เมตร และยาวถึง 30 กิโลเมตร แต่เปิดให้ชมแค่ประมาณ 4.5 กิโลเมตร ภายในมีหินงอกหินย้อยที่มีความวิจิตรงดงาม มีเสาหลักมังกรขนาด 10 คนโอบ ภายในยังมีสระน้ำพญามังกร ซึ่งผู้คนที่ได้มาต่างประทับใจจนไม่สามารถหาคำบรรยายถึงความสวยงานและดูน่า เร้นลับนี้ได้จึงได้ขนานนามสระแห่งนี้ว่า สระน้ำมหัศจรรย์
เดินมาเหนื่อยๆ ได้เวลาอาหารเที่ยงอีกแล้วค่ะ หลังทานอาหารเรามุ่งหน้าต่อไปยัง ทะเลสาบเป่าเฟิ่งหู เป็นทะเลสาบบนช่องเขาสูง โดยที่ทะเลสาบจะถูกรายล้อมด้วยยอดเขา และน้ำก็ใสมาก การเที่ยวชม อาศัยการล่องเรือ โดยระหว่างทางก็จะพบแพและมีคนใส่ชุดพื้นเมืองอยู่ นอกจากนี้ยังมีหินที่รูปร่างเหมือนหน้าผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติโดยไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด หลังจากล่องเรือเสร็จก็ต้องเดินลงจากเขา พอถึงด้านล่างก็จะเห็นน้ำตกจากทะเลสาบเป่าเฟิ่งหูไหลลงมากเป็นภาพที่สวยมาก
ล่องเรือชมธรรมชาติเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาอาหารเย็น มื้อนี้ต้องรีบทานหน่อยค่ะ เพราะเราต้องรีบไปดูโชว์กันค่ะเรียกการแสดงนี้ว่า โชว์เหมยลี่เซียงซีค่ะ เป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองของจางเจียเจี้ยค่ะ
วันที่สี่ของการเดินทาง วันนี้ต้องตื่นแต่เช้ากันอีกวันนึงค่ะ วันนี้เราจะนั่งรถรางขึ้นไปชมภาพเขียนสิบลี้กันค่ะ
ภาพ เขียนสิบลี้คือคือช่องเขาแคบๆ ด้านล่างของเทียนจื่อซาน ที่ถูกบีบด้วยภูเขาและแท่งหินขนาดใหญ่ประมาณ 200 แท่ง เรียงรายเป็นแนวทิวเขาที่ประกอบด้วยยอดเขารูปร่างแปลกตาเรียงรายกัน โดยมีลำธารเล็กๆ ไหลผ่านตามแนวทิวเขาก่อให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพเขียน
เสร็จแล้วแวะทานอาหารเที่ยงแล้วนั่งรถต่อขึ้นไปอีกนิดเพื่อไปขึ้นลิฟท์ แก้วที่มีความสูงถึง 326 เมตร เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาหวงซือจ้ายกันค่ะ หุบเขาแห่งนี้ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องเลยค่ะ แต่ที่ทุกคนน่าจะจำได้ดีที่สุดน่าจะเป็นเรื่อง อวตาร ค่ะ
เที่ยวครบทุกที่แล้วค่ะ เหลือแต่ก็ช็อปปิ้ง เพราะฉะนั้นวันนี้กลับไปทานอาหารและพักผ่อนดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ต้องนั่งรถกลับไปฉางซา แล้วไปช้อปปิ้งกันต่อค่ะ
วันที่ห้าของการเดินทาง วันสุดท้ายของการเดินทางแล้วค่ะ จะได้กลับเมืองไทยกันแล้ว เราจะนั่งรถจากเมืองจางเจียเจี้ย กลับเมืองฉางซา และแวะทานอาหารเที่ยงที่เมืองฉางเต๋อ
หลังจากช้อปปิ้ง ทานอาหาร ถ่ายรูปกันเป็นที่สนุกสนานแล้วคราวนี้ได้เวลาจริงๆแล้วล่ะค่ะกลับเมืองไทย สักที ครั้งนี้ได้นั่ง Business Class ด้วยนะคะ อิอิ แอบตื่นเต้น ออกจากสนามบิน เมืองฉางซาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆค่ะ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ตอนประมาณ 3.00 กลับมาพร้อมความประทับใจและความหนาวจากเมืองจางเจียเจี้ยค่ะ ไว้ เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ
ที่มา - http://www.himalaicenter.com/
ทัวร์ฮ่องกง ทัวร์ฮ่องกง ทัวร์ฮ่องกง ทัวร์ฮ่องกง
ทัวร์คุนหมิง ทัวร์ปักกิ่ง ทัวร์เซี่ยงไฮ้ ทัวร์จางเจียเจี้ย ทัวร์เจิ้งโจว ทัวร์กุ้ยหลิน ทัวร์ฉางซา ทัวร์ไต้หวัน
ทัวร์คุนหมิง ทัวร์ปักกิ่ง ทัวร์เซี่ยงไฮ้ ทัวร์จางเจียเจี้ย ทัวร์เจิ้งโจว ทัวร์กุ้ยหลิน ทัวร์ฉางซา ทัวร์ไต้หวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น