วัดมหากันดายงค์ ( Maha
Gandayon Monastery )
ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ
ซึ่งในช่วงเพลจะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับอาหารพระพุทธมหามุนี
(Mahamui Pagoda )หรือรู้จักกันในนามพระล้างหน้า
ที่มีความงดงามตามศิลปกรรมพม่า
ที่มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริดปิดทอง ที่อย
คู่บ้านคู่เมืองมาช้านานที่สร้างขึ้นราว ปี พ.ศ
2327
เป็นสถานที่ที่สำคัญรองจากพระธาตุเชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง
พระราชวังมัณฑะเลย์ของพระเจ้ามินดงและกษัตริย์
สีป่อ พระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้าย
พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างขึ้นสมัยพระราชามินดง
Mindon
ราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ภายหลังจากมีสงครามระหว่างพม่ากับอังกฤษ
ในปี พ.ศ. 2395เวลานั้นเมืองหลวงอยู่ที่ อมรปุระ
Amarapura ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งมาตั้งแต่ปีพ.ศ.
2325
พระราชามินดงต้องการที่จะหาที่ตั้งของเมืองหลวงที่จะสร้างใหม่หลังสงครามเพราะเมืองหลวงเก่าได้ซึ่งผ่านสิ่งร้ายๆมา
ประกอบกับการยึดมั่นในหลักศูนย์กลางพุทธศาสนา
และพระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานครบ 2,400 ปี
จึงมีรับสั่งให้สร้างเมืองหลวงใหม่ให้เป็น
"เมืองสีทอง" Golden City
ได้ปรึกษากับพระโหราจารย์ และได้ศุภฤกษ์
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2400
โดยได้วางศิฤาฤกษ์ และต่อมาก็ตั้งผังเมือง
โดยฝั่งทางตะวันตกนั้นได้นำชีวิตมนุษย์สังเวย
โดยนำชาย หญิง และเด็กจำนวน 52 ชีวิต
ฝังไว้ภายใต้เสาหลักเมือง
เชื่อว่าวิญญาณของคนเหล่านี้จะปกป้องคุ้มครองเมือง
การก่อสร้างเมืองเสร็จสมบูรณ์ในปี 2402
รวมระยะเวลาในการสร้าง 2 ปี
เมืองสร้างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส วัดได้ ประมาณ
2,030 เมตร ในแต่ละด้าน
พระราชวังตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัส
มีกำแพงล้อมรอบโดยมีประตู 12 ด้าน
ตามจักราศรีพระราชวังโดดเด่นด้วยหอสูง 78 เมตร
ซึ่งตั้งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อ
เกี่ยวกับเรื่องไตรภูมิในพุทธศาสนา
หลังคาสูงเจ็ดชั้นประดับด้วยทองคำเปลว
โดยได้สร้างให้สมเกียรติ
กับบัลลังค์สิงโตซึ่งใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ
เช่นพิธีKadaw เทิดพระเกียรติ ซึ่งจัดขึ้น 3
ครั้งต่อปี
พระราชวังทั้งหมดทำจากไม้ซึ่งนำมาจากวังเดิมที่อมรปุระ
พระราชวังตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปตามเทพนิยาย
รูปดอกไม้และสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์
มีหอนาฬิกาที่ทำจากไม้สักเพื่อเป็นที่สังเกตุการณ์ของทหารเพื่อระวังไฟไหม้
กษัตริย์มินดงได้สวรรค์คตในปี 2421
ต่อมาพระราชวังได้ถูกไฟไหม้วอดวาย ในปี 2488
รัฐบาลพม่าจึงได้บูรณะวังใหม
ทัวร์พม่า ทัวร์พม่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น