เมืองเวสาลี เมืองโบราณในสมัยพุทธกาล
มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของพระเจ้าลิจฉวี
ที่มีปกครองแคว้นวัชชี
เมืองนี้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งในสมัยพุทธกาล
เป็นเมืองที่มั่นแห่งสำคัญของพระพุทธศาสนาในสมัยนั้น
โดยพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยี่ยมเมืองแห่งนี้ในปีที่ 5
หลังการตรัสรู้
ตามการกราบบังคมทูลเชิญจากเจ้าผู้ครองแคว้นและในช่วงหลังพุทธกาล
เมืองแห่งนี้ได้ตกเป็นของแคว้นมคธโดยการนำของพระเจ้าอชาตศัตรูกษัตริย์แห่ง
เมืองราชคฤห์และหลังการล่มสลายของราชวงศ์พิมพิสารในเมืองราชคฤห์
พระราชาองค์ต่อมาจึงได้ย้ายเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธมายังเมืองเวสาลี
ทำให้เมืองแห่งนี้เจริญถึงขีดสุด
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองนี้ได้เป็นสถานที่ทำทุติยสังคายนาของพระพุทธศาสนา
ก่อนที่จะเสื่อมความสำคัญและถูกทิ้งร้างลงเมื่อมีการย้ายเมืองหลวงของแคว้น
มคธไปยังเมืองปาฏลีบุตรหรือเมืองปัตนะอันเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหารใน
ปัจจุบัน
เวสาลีมีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล
โดยเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากแคว้นหนึ่งในบรรดา
16 แคว้นของชมพูทวีป
มีการปกครองด้วยระบบสามัคคีธรรมหรือคณาธิปไตย
ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยระบบหนึ่ง
คือไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขทรงอำนาจสิทธิ์ขาด
มีแต่ผู้เป็นประมุขแห่งรัฐซึ่งบริหารงานโดยความเห็นชอบจากรัฐสภา
ซึ่งจะประกอบไปด้วยเหล่าสมาชิกจากเจ้าวงศ์ต่าง ๆ
วึ่งรวมเป็นคณะผู้ครองแคว้น
ในคัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวว่าเจ้าวงศ์ต่าง ๆ มีถึง 8
วงศ์
และในจำนวนนี้วงศ์เจ้าลิจฉวีแห่งเวสาลีและวงศ์เจ้าวิเทหะแห่งเมืองมิถิลา
เป็นวงศ์ที่มีอิทธิพลที่สุดในสมัยพุทธกาล ในสมัยพุทธกาล
พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่เวสาลีหลายครั้ง
แต่ละครั้งจะทรงประทับที่กูฏาคารศาลาวัดป่ามหาวันเป็นส่วนใหญ่
พระสูตรหลายพระสูตรเกิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้
และที่กูฏาคารศาลานี่เอง ที่เป็นที่ ๆ
พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี
พระน้านางของพระพุทธองค์ พร้อมกับบริวาร
สามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีได้เป็นครั้งแรกในโลก
และในการเสด็จครั้งสุดท้ายของพระพุทธองค์
พระองค์ได้ทรงรับสวนมะม่วงของนางอัมพปาลี
นางคณิกาประจำเมืองเวสาลี
ซึ่งนางได้อุทิศถวายเป็นอารามในพระพุทธศาสนา
พระพุทธองค์ได้ทรงจำพรรษาสุดท้ายที่เวฬุวคามและได้ทรงปลงอายุสังขารที่ปาวาลเจดีย์
และเมื่อหลังพุทธปรินิพพานแล้วได้ 100 ปี
ได้มีการทำสังคายาครั้งที่ 2 ณ วาลิการาม
ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในเมืองเวสาลี
ในช่วงไม่นานหลังพุทธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
เมืองเวสาลีได้ตกไปอยู่ในอำนาจของแคว้นมคธ
โดยการนำของพระเจ้าอชาตศัตรู กษัตริย์แห่งราชคฤห์
คัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวว่า
สาเหตุของการเสียเมืองแก่แคว้นมคธเพราะความแตกสามัคคีของเจ้าวัชชี
เพราะการยุยงของวัสสการพราหมณ์
พราหมณ์ที่พระเจ้าอชาตศัตรูส่งเป็นไส้สึกเพื่อบ่อนทำลายภายใน
เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูยกกองทัพมายึดเมืองจึงสามารถยึดได้โดยง่าย
เพราะไม่มีเจ้าวัชชีองค์ใดต่อสู้ เพราะขัดแย้งกันเอง
ทำให้แคว้นวัชชีล่มสลายและเมืองเวสาลีหมดฐานะเมืองหลวงแห่งแคว้นและตกไปอยู่
ในอำนาจของแคว้นมคธ
แต่จากเหตุการณ์ย้ายเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธหลายครั้งในช่วง
พ.ศ. 70
ที่เริ่มจากอำมาตย์และราษฎรพร้อมใจกันถอดกษัตริย์นาคทัสสก์แห่งราชวงศ์ของ
พระเจ้าพิมพิสารแห่งราชคฤห์ออกจากพระราชบัลลังก์
และยกสุสูนาคอำมาตย์ซึ่งมีเชื้อสายเจ้าลิจฉวีในกรุงเวสาลีแห่งแคว้นวัชชี
เก่า ให้เป็นกษัตริย์ตั้งราชวงศ์ใหม่แล้ว
พระเจ้าสุสูนาคจึงได้ทำการย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธไปยังเมืองเวสาลีอันเป็น
เมืองเดิมของตน
ทำให้เมืองเวสาลีมีความสำคัญในฐานะเมืองหลวงอีกครั้ง
แต่ทว่าก็เป็นเมืองหลวงได้ไม่นาน
เพราะกษัตริย์พระองค์ต่อมาคือพระเจ้ากาลาโศกราช
ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุสูนาค
ได้ย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธอีก
จากเมืองเวสาลีไปยังเมืองปาตลีบุตร
ทำให้เมืองเวสาลีถูกลดความสำคัญลงและถูกทิ้งร้าง
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เมืองแห่งนี้ถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิงในช่วง
พันปีถัดมา
ทัวร์อินเดีย ทัวร์อินเดีย ทัวร์อินเดีย ทัวร์อินเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น