พระราชวังชางเกียงกุง
เมื่อมาเยือนเกาหลีใต้อีกหนึ่งที่ที่ไม่คววรพลาด คือ “พระราชวังชางเกียงกุง” ทัวร์เกาหลี นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนเกาหลี ทัวร์เกาหลี เองมาพระราชวังแห่งนี้เพื่อชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและสวนสวยที่เป็นความโดดเด่น ทัวร์เกาหลี ปัจจุบันเป็น 1 ใน 5 พระราชวังกรุงโซล เป็นอีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนกรุงโซล
พระราชวังชางเกียงกุง หรือ พระราชวังชางเกียง ทัวร์เกาหลี หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดใน เกาหลี ตั้งอยู่ในกรุงโซล ประเทศ เกาหลีใต้ ถูกสร้างขึ้นในปี 1104 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์ราชวงศ์โครยอ โดยสังเกตสิ่งก่อสร้างที่ทำจากหินบริเวณเนินเขาที่จะค่อยๆ นำทางไปยังทิศใต้ หนึ่งในสิ่งก่อสร้างนี้เคยเป็นหอสังเกตการณ์ในอดีต ประตูทางเข้าใหญ่ Honghwamu ของพระราชวัง จะเชื่อมต่อกับสะพาน Okcheongyo สะพานก่อสร้างในปี 1483 และนับเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในโซล มองให้ดีแล้วจะเจอรูปปีศาจที่กำลังซุ่มอยู่ใต้กำแพงอิฐ
เมื่อเมืองหลวงถูกย้ายไปยังกรุงโซลในปี 1392 กษัตริย์ที่ครองราชย์ได้ประทับอยู่ที่นี่ในระหว่างที่พระราชวังเคียงบกกุงแห่งใหม่ทำการก่อสร้างขึ้น อาคารส่วนใหญ่ถูกไฟไหม้เมื่อปี 1592 ถึงแม้ว่าจะได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในภายหลังอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ในยุคที่ญี่ปุ่นเข้ามารุกรานได้มีการสร้างสวนสัตว์ สวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ไว้ในเขตพระราชวัง จนกระทั่งปี 1983 มีการย้ายสวนสัตว์กับสวนสาธารณะออกไปเหลือเพียงพิพิธภัณฑ์ด้านในสถาปัตยกรรมสำคัญที่น่าสนใจได้แก่ “ซุ้มประตูฮองฮวามุน” (Honghwamun) บริเวณทางเข้าของพระราชวัง สันนิษฐานกันว่าสร้างในสมัยพระเจ้าซองจงแต่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย ส่วนซุ้มประตูที่เห็นในปัจจุบันน่าจะของที่สร้างใหม่ในปี 1616 ในสมัยเจ้าชายฮวาแกกุน กระทั่ง พระเจ้าเซจงมหาราช มีดำริที่จะสร้างพระราชวังถวายแก่พระราชบิดาคือ พระเจ้าแทจง แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2026 ในรัชสมัย พระเจ้าซองจง ทรงโปรดให้บูรณะซ่อมแซมและขยายอาณาเขตของพระราชวัง และในปี พ.ศ. 2295 ได้มีกษัตริย์องค์หนึ่งประสูติ ณ พระราชวังแห่งนี้คือ พระเจ้าจองโจ หรือ องค์ชายลีซาน และระหว่างยุคล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น พวกญี่ปุ่นได้สร้างสวนสัตว์ สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ไว้ที่นี่ จนในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ได้มีการย้ายสวนสัตว์และสวนสาธารณะออกไปเหลือแค่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น
พระราชวังชางเคียงกุงคล้ายคลึงกับพระราชวังใหญ่อื่นๆ ในโซล ตรงที่มีบรรยากาศเงียบสงบแต่แฝงไปด้วยความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่อลหม่านอยู่พอควร ในสมัยศตวรรษที่ 16 พระราชวังแห่งนี้เคยถูกทำลายโดยพวกญี่ปุ่น และในตอนต้นของสมัยศตวรรษที่ 19 ก็เคยมีเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่นี่ อาคารโดยส่วนมากที่คุณเห็นทุกวันนี้มีอายุต่ำกว่า 200 ปี แต่ถ้าอยากเห็นอาคารที่ดูเก่าแก่มากกว่านี้ ต้องไปที่โถง Myeongjeongjeon ที่ก่อสร้างตั้งแต่ปี 1616 และนับเป็นโถงเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่ในโซลทุกวันนี้ ทัวร์พระราชวังชางเคียงกุงมีให้บริการเป็นประจำตลอดวัน ตามช่วงเวลาที่กำหนดเปิดให้เข้าชมวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เพื่อศึกษาความเป็นมาอันน่าตื่นเต้นในอดีตของพระราชวัง และถ้าคุณอยากจะเดินสำรวจเอง ต้องไม่พลาดแวะชม Gyeongchunjeon เพราะเชื่อกันว่าที่นี่เป็นสถานที่ประสูติของกษัตริย์ชั้นแนวหน้าหลายพระองค์
เรือนกระจก หรือ Daeonsil เป็นห้องกระจกสไตล์วิคตอเรียนที่สร้างในสมัยตอนต้นของศตวรรษที่ 20 เป็นพื้นที่แห่งความเงียบสงบที่จะทำให้คุณเดินชมพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของเกาหลีได้อย่างสบายใจ ตรงศูนย์กลางของ Daeonsil คุณจะพบน้ำพุสไตล์เรเนซองส์ และสังเกตใต้ผิวน้ำข้างล่างนั้นจะมีเต่าหินอยู่ด้วย
หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกท่าน หากท่านใดมีโอกาสได้เดินทางไปเยือนกรุงโซล อย่าลืมที่ไปเยี่ยมชมพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้นะค่ะ ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศพระราชวังสมัยโบราณของเกาหลีใต้ ที่สามารถบอกเล่าความเป็นมาเป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น